Sunday, March 24, 2019

การยิงปืนด้วยศูนย์เล็งกล้อง FFP แบบ MOA ในระยะไกล

ก่อนที่เราจะพูดถึงการใช้งานศูนย์เล็งกล้องแบบ MOA เราควรจะรู้ก่อนว่า  crosshair ในศูนย์เล็งกล้องที่ถูกใช้ในกองทัพและการล่าสัตว์นั้นหลักๆก็มี 2 ชนิดคือ MILDOT , MOA ยังมีตัวอื่นอีกแต่ผมจะยกตัวอย่างให้ง่ายๆ และสามารถนำไปปรับใช้กับศูนย์เล็งกล้องชนิดต่างๆได้


MOA คืออะไร

MOA นั้นย่อมาจาก minute of angle ซึ่งถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือหน่วยย่อยขององศาที่เราเรียนกันในวิชาคณิตศาสตร์นั่นแหละ     หลายคนอาจสงสัยว่า minute มันแปลว่านาทีมันเกี่ยวอะไรกับองศา
ให้คิดว่า 1 นาทีมีค่าเท่ากับ 60 วินาที  MOA ก็เช่นกัน    1 MOA มีค่าเท่ากับ 1 องศาหารด้วย 60
หรือเอาที่เข้าใจง่ายๆ 1 องศาจะมี 60 MOA เขาถึงเรียกว่า minute of angle

มีคนถามผมมาว่าทำไมองศาในคณิตศาสตร์ถึงเกี่ยวกับการใช้ศูนย์เล็งกล้องผมจึงจำเป็นต้องอธิบายหลักการขีปณวิถีให้เข้าใจว่าองศาที่เปลี่ยนไปนั้นมีผลต่อระยะทางของกระสุน
ทุกคนรู้ว่าโลกเรามีแรงดึงดูด เมื่อเราขว้างก้อนหินออกไปจะตกลงพื้นแบบการเคลื่อนที่ Projectile
หรือเคลื่อนที่แบบโค้งลงนั่นแหละครับ ปืนก็เช่นกันเมื่อยิงไปแล้วกระสุนจะโค้งลงพื้นเนื่องจากแรงดึงดูด
ถ้าหากเราเงยองศาของลำกล้องปืนขึ้นกระสุนจะยิงไปได้ไกลกว่าเดิม ไกลที่สุดประมาณ 45 องศา ถ้ามากกว่านั้นระยะทางจะค่อยๆลดลง

เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้เราก็มาเข้าเนื้อหากันเลย ถ้าใครยังไม่เข้าใจบรรทัดด้านบนก็กลับไปอ่านจนกว่าจะเข้าใจเพราะหลังจากนี้จะเป็นการสอนคำนวณล้วนๆเลย

อย่างที่กล่าวไปกระสุนเดินทางเป็นเส้นโค้งเมื่อเรายิงเป้าหมายที่เกินระยะ zero distance มันจึงตกลงต่ำกว่าเป้า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าปืนและกระสุนที่เราใช้อยู่นั้นมีขีปณวิถีเป็นอย่างไร คำตอบก็คือ เราต้องคำนวณค่า Ballisctic chart แต่เราไม่จำเป็นต้องคำนวณเองพวกฝรั่งเขาทำเว็บคำนวณให้เราแล้วลองค้นหาคำว่า Ballistic Calculators เน็ตดู ค่า Ballistic นั้นจะต้องใช้ความเร็วต้นของกระสุนมาคำนวณและยังมีรายละเอียดยิบย่อยอย่างเช่น ทรงของกระสุน ลม ความชื้น ค่า bullet spin drift น้ำหนักกระสุน องศาที่ยิงบนที่สูงหรือต่ำกว่าเป้าหมาย และอีกมากมายเดี๋ยวผมจะอธิบายทีหลังในตอนนี้มาทำความเข้าใจการปรับศูนย์ก่อน

เมื่อเรามองเข้าไปในศูนย์เล็งกล้องแบบ MOA เราจะเห็นว่ามีขีดเหมือนไม้บรรทัด 1 ช่องมีค่าเท่ากับ 1 MOA หรือกล้องบางรุ่นอาจจะมีค่าเท่ากับ 2 MOA หรือมากน้อยกว่านั้นก็แล้วแต่คนออกแบบ
MOA ด้านล่างและบนใช้วัดจุดตกกระสุน  MOA  ด้านซ้ายและขวาใช้แก้ทางลม (เดี๊ยวผมจะเขียนบทความอธิบายเรื่องลมภายหลัง )
นอกจากจะใช้แก้จุดตกกระสุนแล้ว MOA ยังใช้วัดระยะทางเป้าหมาย ความสูงเป้าหมาย ได้อีกด้วย





ถ้าหากเราใช้ MOA วัดความสูงที่เป้า ทุกคนจำเป็นต้องรู้ว่า  1 MOA ที่ระยะทาง 100  หลา ( อย่าจำสับสนกับเมตรเด็ดขาด ) มีค่าเท่ากับ 1.047 นิ้ว หรือถ้าจะให้คำนวณง่ายเขาจะตัดเศษออก เป็น 1 นิ้วแทน ถ้าไม่เชื่อลองเอาไม้บรรทัดขีดเส้นบนกระดาษช่องละ 1 นิ้วไปตั้งที่ระยะห่างจากตนเอง 100 หลาดูแล้วส่อง 1 ช่อง MOA จะเท่ากับ 1 นิ้วพอดี


แต่ถ้าหากระยะไกลกว่านั้น 1 MOA จะมีค่าที่มากกว่า 1 นิ้วตามตารางด้านล่าง




มันก็คือวิชาคณิตศาสตร์เรื่องสามเหลี่ยมคล้ายดีๆนี่เอง

ต่อมาเป็นการอธิบายการเล็งชดเชยจุดตกของกระสุนโดยมีแค่การคำนวณแรงดึงดูดเพียงอย่างเดียวและไม่มีปัจจัยอื่นๆมาใช้ในการคำนวณ

ผมขอยกตัวอย่างค่า Ballistic chart ของกระสุน .308 Winchester น้ำหนัก 168 grain


RangeElevationElevationWindageWindageTimeEnergyVel[x+y]
(yd)(in)(MOA)(in)(MOA)(s)(ft.lbf)(ft/s)
0-1.500.000.030.000.0027202700
25-0.642.450.080.290.0326252652
50-0.100.200.210.400.0625332605
750.11-0.150.430.550.0924432559
1000.000.000.750.720.1223562513
125-0.450.351.160.890.1522722468
150-1.270.811.671.060.1821902423
175-2.451.342.291.250.2121102378
200-4.021.923.001.430.2420322334
225-5.992.543.821.620.2719572290
250-8.373.194.751.810.3018842247
275-11.183.885.802.010.3418132204
300-14.444.596.952.210.3717442162
325-18.165.338.232.420.4116772120
350-22.376.109.632.630.4416122079
375-27.086.8911.162.840.4815492038
400-32.317.7112.813.060.5214881997
425-38.098.5614.603.280.5614291957
450-44.449.4316.533.510.5913721918
475-51.3710.3318.593.740.6313171879
500-58.9311.2520.803.970.6712641841
Elevation คือ ค่าของจุดตกกระสุนที่แรงดึงดูดกระทำต่อกระสุนในแนวพุ่งเข้าหาจุดศูนย์กลางแรงดึงดูดหรือพูดง่ายๆก็คือ ค่ากระสุนตกจาก zero distance ระยะยิ่งมากยิ่งตกลงมาก

ดูแค่ช่อง Elevation ( in ) ก่อน ช่องอื่นจะสอนในบทความต่อไป  จะเห็นว่า ที่ระยะ 100 หลา ช่อง Elevation มีค่าเท่ากับ 0 หรือก็คือ เรา zero distance ไว้ที่ระยะนี้ เลื่อนลงมาเรื่อยจนถึงระยะ 200 หลา จะเห็นว่ามีค่าเท่ากับ -4.02 นิ้ว หรือก็คือกระสุนตกลงจากเป้าที่เล็ง 4.02 นิ้ว ถ้าจะยิงให้ตรงเป้าต้องเล็งสูงขึ้นอีก 4.02 นิ้ว เอาง่ายๆ เอาเป็น 4 นิ้วก็แล้วกัน แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าระยะ MOA เท่าไหร่มีค่าเท่ากับ 4 นิ้ว ให้ย้อนกลับไปดูตาราง Size of MOA ด้านบนจะเห็นว่าที่ระยะ 200 หลา 1 ช่อง MOA มีค่าเท่ากับ 2 นิ้ว ถ้าเราต้องเล็งเผื่อ 4 นิ้วจะต้องใช้กี่ MOA ลองคำนวณดู


คำตอบคือ 2 MOA ลองดูในช่อง Elevation ( moa ) จะเห็นว่าช่องนี้ที่ 200 หลา เท่ากับ 1.92 ใกล้เคียงกับ 2 ไหม ที่ไม่ตรงกันเพราะว่าในตารางใช้  1 MOA ที่ระยะ 100 หลามีค่าเท่ากับ 1.047  ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ลองคำนวณแบบไม่ตัดเศษออกดู จะได้ 1.047 x 2 x 1.92 = 4.02048  ตรงเป๊ะ


อธิบายขยายความ ว่าตัวเลขมาจากไหน 

1.047 มาจาก 1 MOA ที่ระยะ 100 หลา มีค่าเท่ากับ 1.047





2 มาจากระยะที่ต้องการยิงที่ 200 หลา ตัดเอาแค่เลขด้านหน้ามา 


( ตามสูตร  ระยะตกของกระสุนตาม   Ballistic chart )  = ระยะ MOA ชดเชย

                1.047   x เลขหน้าของระยะเป้าหมาย


1.92  มาจากค่า   Elevation ( moa ) ตามตาราง Ballistic chart 



ผมจะยกตัวอย่างการยิงที่ระยะ 500 หลาแล้วลองคำนวณดูเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น


ตามสูตร      ระยะตกของกระสุนตาม Ballistic chart    = ระยะ MOA ชดเชย
                 1.047   x เลขหน้าของระยะเป้าหมาย


จะได้            58.93           =    11.25692    

                     1.047  x     5

ในตารางเขียนค่า 11.25 หรือก็คือเล็งเผื่อ 11.25 ช่อง MOA นั่นเอง





No comments:

Post a Comment