MOA คืออะไร
MOA นั้นย่อมาจาก minute of angle ซึ่งถ้าจะให้เข้าใจง่ายๆ มันก็คือหน่วยย่อยขององศาที่เราเรียนกันในวิชาคณิตศาสตร์นั่นแหละ หลายคนอาจสงสัยว่า minute มันแปลว่านาทีมันเกี่ยวอะไรกับองศา
ให้คิดว่า 1 นาทีมีค่าเท่ากับ 60 วินาที MOA ก็เช่นกัน 1 MOA มีค่าเท่ากับ 1 องศาหารด้วย 60
หรือเอาที่เข้าใจง่ายๆ 1 องศาจะมี 60 MOA เขาถึงเรียกว่า minute of angle
มีคนถามผมมาว่าทำไมองศาในคณิตศาสตร์ถึงเกี่ยวกับการใช้ศูนย์เล็งกล้องผมจึงจำเป็นต้องอธิบายหลักการขีปณวิถีให้เข้าใจว่าองศาที่เปลี่ยนไปนั้นมีผลต่อระยะทางของกระสุน
ทุกคนรู้ว่าโลกเรามีแรงดึงดูด เมื่อเราขว้างก้อนหินออกไปจะตกลงพื้นแบบการเคลื่อนที่ Projectile
หรือเคลื่อนที่แบบโค้งลงนั่นแหละครับ ปืนก็เช่นกันเมื่อยิงไปแล้วกระสุนจะโค้งลงพื้นเนื่องจากแรงดึงดูด
ถ้าหากเราเงยองศาของลำกล้องปืนขึ้นกระสุนจะยิงไปได้ไกลกว่าเดิม ไกลที่สุดประมาณ 45 องศา ถ้ามากกว่านั้นระยะทางจะค่อยๆลดลง
เมื่ออ่านมาถึงบรรทัดนี้เราก็มาเข้าเนื้อหากันเลย ถ้าใครยังไม่เข้าใจบรรทัดด้านบนก็กลับไปอ่านจนกว่าจะเข้าใจเพราะหลังจากนี้จะเป็นการสอนคำนวณล้วนๆเลย
อย่างที่กล่าวไปกระสุนเดินทางเป็นเส้นโค้งเมื่อเรายิงเป้าหมายที่เกินระยะ zero distance มันจึงตกลงต่ำกว่าเป้า แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าปืนและกระสุนที่เราใช้อยู่นั้นมีขีปณวิถีเป็นอย่างไร คำตอบก็คือ เราต้องคำนวณค่า Ballisctic chart แต่เราไม่จำเป็นต้องคำนวณเองพวกฝรั่งเขาทำเว็บคำนวณให้เราแล้วลองค้นหาคำว่า Ballistic Calculators เน็ตดู ค่า Ballistic นั้นจะต้องใช้ความเร็วต้นของกระสุนมาคำนวณและยังมีรายละเอียดยิบย่อยอย่างเช่น ทรงของกระสุน ลม ความชื้น ค่า bullet spin drift น้ำหนักกระสุน องศาที่ยิงบนที่สูงหรือต่ำกว่าเป้าหมาย และอีกมากมายเดี๋ยวผมจะอธิบายทีหลังในตอนนี้มาทำความเข้าใจการปรับศูนย์ก่อน
เมื่อเรามองเข้าไปในศูนย์เล็งกล้องแบบ MOA เราจะเห็นว่ามีขีดเหมือนไม้บรรทัด 1 ช่องมีค่าเท่ากับ 1 MOA หรือกล้องบางรุ่นอาจจะมีค่าเท่ากับ 2 MOA หรือมากน้อยกว่านั้นก็แล้วแต่คนออกแบบ
MOA ด้านล่างและบนใช้วัดจุดตกกระสุน MOA ด้านซ้ายและขวาใช้แก้ทางลม (เดี๊ยวผมจะเขียนบทความอธิบายเรื่องลมภายหลัง )
นอกจากจะใช้แก้จุดตกกระสุนแล้ว MOA ยังใช้วัดระยะทางเป้าหมาย ความสูงเป้าหมาย ได้อีกด้วย
ถ้าหากเราใช้ MOA วัดความสูงที่เป้า ทุกคนจำเป็นต้องรู้ว่า 1 MOA ที่ระยะทาง 100 หลา ( อย่าจำสับสนกับเมตรเด็ดขาด ) มีค่าเท่ากับ 1.047 นิ้ว หรือถ้าจะให้คำนวณง่ายเขาจะตัดเศษออก เป็น 1 นิ้วแทน ถ้าไม่เชื่อลองเอาไม้บรรทัดขีดเส้นบนกระดาษช่องละ 1 นิ้วไปตั้งที่ระยะห่างจากตนเอง 100 หลาดูแล้วส่อง 1 ช่อง MOA จะเท่ากับ 1 นิ้วพอดี
แต่ถ้าหากระยะไกลกว่านั้น 1 MOA จะมีค่าที่มากกว่า 1 นิ้วตามตารางด้านล่าง
มันก็คือวิชาคณิตศาสตร์เรื่องสามเหลี่ยมคล้ายดีๆนี่เอง
ต่อมาเป็นการอธิบายการเล็งชดเชยจุดตกของกระสุนโดยมีแค่การคำนวณแรงดึงดูดเพียงอย่างเดียวและไม่มีปัจจัยอื่นๆมาใช้ในการคำนวณ
ผมขอยกตัวอย่างค่า Ballistic chart ของกระสุน .308 Winchester น้ำหนัก 168 grain
Range | Elevation | Elevation | Windage | Windage | Time | Energy | Vel[x+y] |
(yd) | (in) | (MOA) | (in) | (MOA) | (s) | (ft.lbf) | (ft/s) |
0 | -1.50 | 0.00 | 0.03 | 0.00 | 0.00 | 2720 | 2700 |
25 | -0.64 | 2.45 | 0.08 | 0.29 | 0.03 | 2625 | 2652 |
50 | -0.10 | 0.20 | 0.21 | 0.40 | 0.06 | 2533 | 2605 |
75 | 0.11 | -0.15 | 0.43 | 0.55 | 0.09 | 2443 | 2559 |
100 | 0.00 | 0.00 | 0.75 | 0.72 | 0.12 | 2356 | 2513 |
125 | -0.45 | 0.35 | 1.16 | 0.89 | 0.15 | 2272 | 2468 |
150 | -1.27 | 0.81 | 1.67 | 1.06 | 0.18 | 2190 | 2423 |
175 | -2.45 | 1.34 | 2.29 | 1.25 | 0.21 | 2110 | 2378 |
200 | -4.02 | 1.92 | 3.00 | 1.43 | 0.24 | 2032 | 2334 |
225 | -5.99 | 2.54 | 3.82 | 1.62 | 0.27 | 1957 | 2290 |
250 | -8.37 | 3.19 | 4.75 | 1.81 | 0.30 | 1884 | 2247 |
275 | -11.18 | 3.88 | 5.80 | 2.01 | 0.34 | 1813 | 2204 |
300 | -14.44 | 4.59 | 6.95 | 2.21 | 0.37 | 1744 | 2162 |
325 | -18.16 | 5.33 | 8.23 | 2.42 | 0.41 | 1677 | 2120 |
350 | -22.37 | 6.10 | 9.63 | 2.63 | 0.44 | 1612 | 2079 |
375 | -27.08 | 6.89 | 11.16 | 2.84 | 0.48 | 1549 | 2038 |
400 | -32.31 | 7.71 | 12.81 | 3.06 | 0.52 | 1488 | 1997 |
425 | -38.09 | 8.56 | 14.60 | 3.28 | 0.56 | 1429 | 1957 |
450 | -44.44 | 9.43 | 16.53 | 3.51 | 0.59 | 1372 | 1918 |
475 | -51.37 | 10.33 | 18.59 | 3.74 | 0.63 | 1317 | 1879 |
500 | -58.93 | 11.25 | 20.80 | 3.97 | 0.67 | 1264 | 1841 |
ดูแค่ช่อง Elevation ( in ) ก่อน ช่องอื่นจะสอนในบทความต่อไป จะเห็นว่า ที่ระยะ 100 หลา ช่อง Elevation มีค่าเท่ากับ 0 หรือก็คือ เรา zero distance ไว้ที่ระยะนี้ เลื่อนลงมาเรื่อยจนถึงระยะ 200 หลา จะเห็นว่ามีค่าเท่ากับ -4.02 นิ้ว หรือก็คือกระสุนตกลงจากเป้าที่เล็ง 4.02 นิ้ว ถ้าจะยิงให้ตรงเป้าต้องเล็งสูงขึ้นอีก 4.02 นิ้ว เอาง่ายๆ เอาเป็น 4 นิ้วก็แล้วกัน แล้วเราจะรู้ได้ยังไงว่าระยะ MOA เท่าไหร่มีค่าเท่ากับ 4 นิ้ว ให้ย้อนกลับไปดูตาราง Size of MOA ด้านบนจะเห็นว่าที่ระยะ 200 หลา 1 ช่อง MOA มีค่าเท่ากับ 2 นิ้ว ถ้าเราต้องเล็งเผื่อ 4 นิ้วจะต้องใช้กี่ MOA ลองคำนวณดู
คำตอบคือ 2 MOA ลองดูในช่อง Elevation ( moa ) จะเห็นว่าช่องนี้ที่ 200 หลา เท่ากับ 1.92 ใกล้เคียงกับ 2 ไหม ที่ไม่ตรงกันเพราะว่าในตารางใช้ 1 MOA ที่ระยะ 100 หลามีค่าเท่ากับ 1.047 ตามที่กล่าวไว้ข้างต้น ลองคำนวณแบบไม่ตัดเศษออกดู จะได้ 1.047 x 2 x 1.92 = 4.02048 ตรงเป๊ะ
อธิบายขยายความ ว่าตัวเลขมาจากไหน
1.047 มาจาก 1 MOA ที่ระยะ 100 หลา มีค่าเท่ากับ 1.047
2 มาจากระยะที่ต้องการยิงที่ 200 หลา ตัดเอาแค่เลขด้านหน้ามา
( ตามสูตร ระยะตกของกระสุนตาม Ballistic chart ) = ระยะ MOA ชดเชย
1.047 x เลขหน้าของระยะเป้าหมาย
1.92 มาจากค่า Elevation ( moa ) ตามตาราง Ballistic chart
ผมจะยกตัวอย่างการยิงที่ระยะ 500 หลาแล้วลองคำนวณดูเพื่อให้เข้าใจมากขึ้น
ตามสูตร ระยะตกของกระสุนตาม Ballistic chart = ระยะ MOA ชดเชย
1.047 x เลขหน้าของระยะเป้าหมาย
จะได้ 58.93 = 11.25692
1.047 x 5
ในตารางเขียนค่า 11.25 หรือก็คือเล็งเผื่อ 11.25 ช่อง MOA นั่นเอง
No comments:
Post a Comment